Biology:
ต้นไม้ของฉัน
(-การศึกษาโครงสร้างของพืช-)
Biology:
ต้นไม้ของฉัน "ดาวเรือง"
ชื่อสามัญ : African Marigold วงศ์ : Asteraceae
ชื่ออื่น : คำปู้จู้หลวง ,พอทู ถิ่นกำเนิด: ประเทศเม็กซิโก, อเมริกาใต้
ลักษณะทั่วไป:
ต้น : ไม้ดอกล้มลุก มีทั้งพันธุ์เตี้ย และ พันธุ์สูง ลำต้นเป็นเหลี่ยม
ใบ : ใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้าม ใบย่อยรูปรี ถึงรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง ประมาณ 0.5-1.5 cm. ยาวประมาณ 1.5-5 cm. ปลายใบแหลม โคนใบสอบแคบ ขอบใบจักฟันเลื่อย ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม
ดอก : มีหลายสี เข่น สีขาว เหลือง เหลืองทอง และส้ม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกเดี่ยวที่ปลายกิ่ง ดอกวงนอกกลีบดอกเป็นรูปรางน้ำซ้อนกันแน่น โคนกลีบดอกเป็นหลอดเล็ก ปลายแผ่เป็นรูปไข่กลับ ดอกวงในกลีบดอกเป็นหลอดสีเหลืองปลายจักเป็น 5 ซี่ ดอกบานเต็มที่กว้าง 5-8 cm. มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน
ฝัก/ผล : ผลแห้งไม่แตก มีสีดำ
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด, ปักชำยอด
การปลูก (ปลูกโดยวิธีปักชำ)
1.เตรียมดิน คือ ดิน ผสมขี้เถ้า แกลบ ใส่ในถุงเพาะชำหรือเป็นแปลงสำหรับปักชำ
2.เด็ดยอดที่มีความยาว 1-2 นิ้ว แล้วนำมาปักชำในดินเตรียมไว้ รดน้ำ เช้า-เย็น
3.รากจะงอกใน 4-5 วัน หากคุมความชื้นได้ดี จะงอกใน 3-4 วัน ระยะนี้ให้โดนแดดอ่อนๆ
4.นำไปโดนแดดจัด อีก 4-5 วัน สามารถนำไปปลูกในแปลงใหญ่ได้ ดอกจะออกราวๆ 45 – 60วันหลังปลูก ในช่วงนี้รดน้ำตอนเช้าครั้งเดียว
โครงสร้างภายนอกของ ดาวเรือง
ราก : ดาวเรือง เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ โดยทั่วไประบบรากจะเป็นระบบรากแก้ว ประกอบไปด้วย รากแก้ว (Primary root) ที่เจริญมาจากรากแรกเกิด และแตกแขนออกเป็นรากแขนง (Lateral root) จาก Pericycle และรากแขนงจะแตกแขนออกเป็นรากฝอยได้อีก
ลำต้น : ประกอบด้วยปลายยอดและตามซอกกิ่งจะพบ เนื้อเยื่อเจริญส่วนปลาย (Apical meristem) ใบเริ่มเกิด (Leaf primordial) ซึ่งจะเจริญไปเป็นใบอ่อน (Young leaf) และกลายเป็นใบที่เจริญเต็มที่
ใบ : เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ชนิดใบเป็นใบประกอบ( compound leaf )แบบขนนก เรียงตรงข้าม ใบย่อยรูปรี ถึงรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน
โครงสร้างภายในของ ดาวเรือง
โครงสร้างลักษณะภายในราก
- Epidermis : เป็นเซลล์เดียวเรียงชิดติดกัน อยู่ชั้นนอกสุด บางตำแหน่งมี Root hair cell- Cortex : ประกอบด้วย สะสมน้ำและอาหาร
- Endodermis : เซลล์ชั้นในมีลักษณะเป็นเซลล์ Parenchyma มีสาร Suberinสะสมอยู่ ส่วนด้านเซลล์ด้านนอก มีสาร Lignin สะสมอยู่ เรียก Casperian strip แถบนี้จะทำให้ผนังเซลล์หนาขึ้น
โครงสร้างลักษณะภายในลำต้น
- Epidermis : เป็นเซลล์เดียวเรียงชิดติดกันอยูชั้นนอกของลำต้น
- Cortex : ประกอบด้วย Parenchyma และมักมี Collenchyma อยู่ติดกับ Epidermis
- Stele : ประกอบด้วย กลุ่มท่อลำเลียง มี เนื้อเยื้อเป็น Xylem และ Phloem และมี Vascular ray เป็น Parenchyma ที่อยู่ระหว่าง Cortex และ Pith ( pith เป็นเซลล์ชั้นสุดอยู่ใจกลางลำต้นจะสะสมแป้งและสารต่างได้มาในบริเวณนี้)
โครงสร้างลักษณะภายในใบ
- Epidermis : มีทั้งด้านบน (Upper epidermis) และด้านล่าง (Lower epidermis) ประกอบด้วย เซลล์ผิว เซลล์ขน เซลล์คุม ไม่มี Chloroplast ยกเว้น เซลล์คุม (Guard cell)จะควบคุมการคายน้ำ และแลกเปลี่ยนแก๊สผ่านปากใบ (Stomata) ในใบของดาวเรืองนี้ Lower epidermis จะมีปากใบมากกว่า Upper epidermis
- Mesophyll : อยู่ระหว่าง Epidermis ทั้งสอง เป็นเซลล์ Chlorenchyma (เซลล์Parenchyma ที่มี Chloroplast) แบ่งเป็น
- Palisade Mesophyll : อยู่ด้านบนติดกับ Epidermis เป็นเซลล์ยาวเรียงเป็นแถวชั้นเดียวหรือหลายชั้น มี Chloroplast มาก ทำให้ใบด้านบนมีสีเข้มกว่าด้านล่าง
- Spongy Mesophyll : อยู่ด้านล่าง เป็นเซลล์รูปร่างไม่แน่นอน เรียงกันหลวม ๆ มีช่องอากาศมาก มี Chloroplast น้อยกว่า Palisade Mesophyll
- Vascular bundle (มัดท่อลำเลียง) : ส่วนที่เรามองเห็นเป็นเส้นใบและเส้นกลางใบ มีเซลล์ล้อมรอบ เรียก Bundle-sheath cell